เสียงต้นฉบับ - หมูดิว. เสียงต้นฉบับ - หมูดิว Get TikTok App Point your camera at the QR code to download TikTok Text yourself a link to download TikTok
- ค้นพบวิดีโอยอดนิยมของ วิธีแกะหอยแครงง่ายๆ | TikTok
- กาบหอยแครง พืชกินแมลง สีสันสวยงาม - Kaset Today
- หอยแครง เป็นอาหารขึ้นชื่อทุกที่โดยเฉพาะที่ไทยนั้นชื่นชอบเป็นอย่างมาก
- หอยแครง
ค้นพบวิดีโอยอดนิยมของ วิธีแกะหอยแครงง่ายๆ | TikTok
และเริ่มสืบพันธุ์เมื่ออายุประมาณ 3 เดือน หรือมีขนาดฝาประมาณ 1. 70 ซม. ขึ้นไป โดยสามารถวางไข่ได้ตลอดทั้งปี แต่จะวางไข่มากที่สุดในช่วงเดือนกรกฎาคม เนื่องจากมีน้ำฝนไหลลงชายฝั่ง ทำให้ระดับความเค็มลดลงในระดับที่เหมาะสมกับการวางไข่
การสืบพันธุ์ของหอยแครงจะแยกเพศ แต่เพศจะมีอยู่ในหอยตัวเดียวกัน ซึ่งเมื่ออวัยวะเพศสมบูรณ์ หอยแครงจะฉีดน้ำเชื้อ และไข่เข้าผสมกันภายในตัวหอย แล้วจะปล่อยไข่ที่ผสมแล้วให้ลอยตามกระแสน้ำ และตกบริเวณริมชายฝั่งที่มีโคลน
สภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมต่อหอยแครง
1. บริเวณชายฝั่งที่เป็นปากแม่น้ำ และมีดินเลนหรือโคลนมาก เนื่องจากมีสารอาหารสูง
2. พื้นที่เป็นดินเลนหรือโคลนที่มีลักษณะเรียบ ไม่ขรุขระ และลาดเอียงน้อยกว่า 15 องศา
3. ดินเลนหรือโคลนมีเนื้อละเอียด มีความลึกประมาณ 30-50 ซม. 4. ดินเลนหรือโคลนมีการทับถมของซากพืช ซากสัตว์หรืออินทรีย์วัตถุต่างๆ
4. ความลึกของน้ำทะเลประมาณ 0. 5-2 เมตร
5. มีการเปลี่ยนแปลงของความเค็มในช่วง 10. 0-30. 0 ppm
6. ไม่อยู่ใกล้ชุมชน อุตสาหกรรมหรือแหล่งมลพิษ
ศัตรูของหอยแครง
1. หอยหมู
หอยชนิดนี้จะเกาะที่ปากหอยแครง แล้วปล่อยน้ำพิษเข้าในหอยแครงขณะที่หอยแครงอ้าเปลือกออก หลังจากนั้น หอยแครงจะอ้าเปลือกออกมากจนหอยหมูสามารถกัดกินเนื้อข้างในได้ ดังนั้น การเลี้ยงฟาร์มหอยแครงจำเป็นต้องคอยเก็บหอยหมู แล้วนำมาตากแดดให้หมด
2.
- โปร farmville 2 2019 schedule
- เพลง 80 90 ไทย 14
- กาบหอยแครง พืชกินแมลง สีสันสวยงาม - Kaset Today
กาบหอยแครง พืชกินแมลง สีสันสวยงาม - Kaset Today
กาบหอยแครงแบบธรรมดา ต้นใหญ่มีขนาดประมาณ 3-8 เซนติเมตร เมื่อโดนแดดจัดต้นจะเป็นสีเขียวเหลือง ใบกาบจะเป็นสีชมพูถึงแดงเข้ม การโตจะเริ่มจากแบบก้านสั้นนอนราบกับพื้นแล้วก้านจะยาวขึ้นเรื่อยๆ จนก้านตั้งยาว เรียกว่า "ก้านแบบหน้าร้อน" 2. กาบหอยแครงแบบก้านสั้น ต้นนอนอยู่กับพื้น และไม่สูง มักขึ้นตอนหน้าร้อนทั่วๆไป สีจะอ่อนกว่าแบบธรรมดา 3. กาบหอยแครงแบบก้านสีแดงต้นเขียว ต้นจะเป็นกาบที่ทรงสวยไม่สูงและชูก้านขึ้นในหน้าร้อนและมีสีแดงจนถึงฝาด้านนอก และก้าน แล้วยังเป็นกาบที่ใหญ่ที่สุดในช่วงหน้าร้อนอีกด้วย 4. กาบหอยแครงแบบสีแดงทั้งหมด เป็นกาบชนิดที่มีสีแดงเข้มทั้งต้น ถึงแม้จะปลูกในที่แดดไม่สว่างมาก ก็จะเป็นสีเขียวออกน้ำตาล แต่ถ้าโดนแดดมากๆ ก็จะเป็นสีแดงทั้งต้น แบบสีแดงน้ำตาล กาบสีแดงเริ่มมาจากพันธุ์ Royal Red ซึ่งเลี้ยงยากที่สุด หลังจากนั้นได้พัฒนาสายพันธุ์มาเรื่อยๆ จนมาเป็นต้นที่แดงมากที่สุด โตเร็ว และอึดที่สุดในบรรดาสีแดงทั้งหมดด้วย 5. กาบหอยแครงแบบฟันลักษณะเหมือนเลื่อย ฟันของกาบหอยแครงจะเป็นเหมือนเลื่อยและจะเริ่มโตจากการฟักตัวเป็น แบบทรงกาบกอราบไปกับพื้น แต่ต้นจริงๆคือ ก้านจะชูสูง เหมือนกาบในหน้าร้อน 6.
สรรพคุณและประโยชน์ มีตำรายาแผนโบราณระบุว่า ใช้ต้นต้มน้ำดื่ม แก้ไอ แก้ร้อนใน และแก้ฟกช้ำได้ ที่มา
หอยแครง เป็นอาหารขึ้นชื่อทุกที่โดยเฉพาะที่ไทยนั้นชื่นชอบเป็นอย่างมาก
หอยตะกาย
หอยชนิดนี้จะใช้วิธีเจาะผ่านฝาหอย แล้วดูดกินเนื้อหอยแครง
3. หอยกระพง
หอยชนิดนี้จะไม่มีผลต่อหอยแครงโดยตรง แต่เป็นหอยที่ปล่อยสารเป็นเส้นคล้ายเส้นด้าย สารนี้เมื่อตกลงดินจะทำให้หน้าดินโคลนแข็ง ทำให้หอยแครงฝังตัวลงโคลนได้ยาก ซึ่งแก้ได้โดยใช้ไม้กระดานเกลี่ยหน้าดินให้เส้นด้ายแตกกระจาย ไม่รวมตัวกัน
4. ปลากินลูกหอยชนิดต่างๆ อาทิ ปลากด ปลาดาว และปลากระเบน เป็นต้น
ประโยชน์หอยแครง
1. เนื้อหอยนำมาลวกน้ำร้อนรับประทาน
2. เนื้อหอยแปรรูปเป็นหอยแครงดอง หอยแครงตากแห้ง เป็นต้น สำหรับใส่ในส้มตำหรือใช้ประกอบอาหารต่างๆ
3. เปลือกหอยแครงนำไปเผาเพื่อผลิตปูนขาวหรือผลิตแคลเซียมคาร์บอเนต
เปลือกหอยแครง
เปลือกหอยแครง กว่าร้อยละ 95 จะประกอบด้วย แคลเซียมคาร์บอเนต (calcium carbonate) ส่วนที่เหลือจะเป็น
– แคลเซียมฟอสเฟต
– แมกนีเซียมฟอสเฟต
– แมกนีเซียมซิลิเกต
– แมกนีเซียมคาร์บอเนต
– โปรตีนประเภทคอนไคโอลิน (conchinolim)
เปลือกหอยแครง แบ่งเป็น 3 ชั้น ได้แก่
1. ชั้นนอกสุด (Periostracum layer)
ชั้นนี้ประกอบด้วยสารหลัก คือโปรตีนประเภทคอนไคโอลิน ที่ทำให้เปลือกด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลดำ ซึ่งเป็นชั้นบางๆ และหลุดได้ง่าย
2.
หอยแครง
2 เซนติเมตร บางต้นที่มีอายุมากและอยู่ในสถานที่เหมาะสมก็อาจมีขนาดเกือบ 2.
กาบหอยแครงแบบก้านชูสูง เมื่อกาบโตมาจะเป็นเหมือนฟันฉลาม แต่ฟันเป็นแบบพันธุ์ธรรมดา 7. กาบหอยแครงแบบกลายพันธุ์ จะมีหลายรูปแบบสายพันธุ์ยังไม่แน่นอน 8.
กระทู้สนทนา
หอยแครงขลุ่ยรสชาติเป็นยังไงเหรอครับ ถ้าเทียบกับหอยแครง เห็นตามร้านบุฟเฟ่ราคาถูกชอบเอามาลง ราคาถูกกว่าหอยแครง 2-3 เท่า
หอยครางอีกตัว ยังไม่เคยชิม
แก้ไขข้อความเมื่อ
0
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เป็นพื้นที่ที่ไม่มีคลื่นลมแรง
7. เป็นพื้นที่ที่มีระดับน้ำขึ้นน้ำลงเกินกว่า 1 เมตร
4. พื้นที่มีระดับความลึกประมาณ 0. 5-1 ม. หากมีน้ำขึ้นน้ำลง ดินเลนต้องตากแดดไม่เกิน 3 ชม. 5. พื้นที่มีระดับความเค็มประมาณ 10 – 30 ppm
6. ไม่อยู่ใกล้แหล่งชุมชนหรือแหล่งปล่อยน้ำเสียหรือสารเคมี
รูปแบบการเลี้ยง
1. การเลี้ยงแบบดั้งเดิม
การเลี้ยงแบบนี้ เป็นรูปแบบดั้งเดิมที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ ใช้เนื้อที่ประมาณ 5-30 ไร่ ด้วยการใช้ไม้ไผ่ปักล้อมแปลงนิยมใช้ลูกหอย ขนาดน้ำหนักประมาณ 450 ตัว/กิโลกรัม บางพื้นที่ใช้ขนาดตัวที่เล็กกว่านี้ เช่น 500-2500 ตัว/กิโลกรัม อัตราการหว่านเลี้ยงที่ 800-1, 500 กิโลกรัม/ไร่
2. การเลี้ยงแบบพัฒนา
เป็นการเลี้ยงหอยแครงในรูปแบบเชิงธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งต้องใช้พื้นที่ประมาณ 100 -1, 000 ไร่ แต่จะใช้ไม้ไผ่ปักเขต และป้องกันคลื่นพัดแบบเดียวกับแบบดั้งเดิม มีขนาดของลูกหอยแครงที่ใช้ปล่อยที่ 2, 500 ตัว/กิโลกรัม หรือบางพื้นที่จะใช้ขนาดเดียวกับแบบดั้งเดิม และจะใช้เวลาในการเลี้ยง และการให้ผลผลิตที่ใกล้เคียงกัน
การเตรียมแปลงเลี้ยง
การเตรียมแปลงเลี้ยงจะนิยมใช้ไม้ไผ่หรือลำไม้อื่นๆปักลงบนดินเลนให้แน่น ลึกประมาณ 50 ซม.
- กระเป๋า สตางค์ muji online
- กาว ติด เซรามิค
- รูป หยอด กระปุก ออมสิน
- เวฟ ไอ 110 ch
- บานเกล็ด ไม้ ระบาย อากาศ
- ตู้ กระจก โบราณ แปล
- ขาย pet simulator free
- เเ บ ง 20 mg
- ศาล แรงงาน ภาค 1
- Tcl 18000 btu ราคา
- หอพัก ร้อยเอ็ด ใกล้ โรบินสัน ศรีราชา
- สาว สวย เชียงใหม่ 2564
- ออ ออ น
- แสน นา กา เพลง
- Assassin's creed valhalla mod ภาษาไทย
- ไฟเพดาน led
- Benz 230e w124 ราคา
- ลักษณะ แท่ง เทียน กลับ ตัว