เมื่อตั้งครรภ์คุณแม่ส่วนใหญ่ก็อยากจะคลอดเองตามวิถีธรรมชาติ ก็จำเป็นต้องเรียนรู้คำศัพท์ที่คุณหมอพูดมาแล้วแม่ฟังเข้าใจ ซึ่งคำศัพท์เหล่านั้นที่คุณหมอพูดมีเรื่องใดบ้าง และมีความหมายว่าอย่างไร ก็ต้องมาดูกันเลย 16 คำศัพท์ เกี่ยวกับการคลอดลูก สำหรับคำศัพท์ที่เกี่ยวกับการคลอดลูก ก็มีดังนี้ 1. คลอดธรรมชาติ วิธีการคลอดที่ร่างกายคุณแม่พร้อมที่จะคลอดเด็กออกมาด้วยกลไกของธรรมชาติ ที่เริ่มจากมดลูกมีการบีบตัวจากระยะห่าง มาจนระยะถี่ขึ้น จนทำให้เด็กลงมาสู่ช่องคลอด ซึ่งในขบวนการนี้ปากมดลูกก็จะบางตัวพร้อมเปิดขยาย เมื่อคุณหมอตรวจดูแล้วว่ามดลูกขยายได้ในขนาด 10 เซนติเมตรแล้ว คุณแม่ก็จะมีลมเบ่งมากขึ้น และพร้อมที่จะขับเคลื่อนให้ทารกคลอดออกมาตามแรงเบ่งของแม่ 2. ท้องปั้น ท้องแข็ง อาการท้องปั้นท้องแข็งจะพบในคุณแม่ที่ท้องแก่ใกล้คลอด ซึ่งจะเป็นช่วงอายุครรภ์สัปดาห์ที่ 28 ขึ้นไป โดยอาการท้องแข็งเป็นระยะ หากเอามือจับดูจะรู้ได้ถึงการเป็นก้อนตึงบางครั้งก็หายไป จะแข็งมากหรือน้อยแล้วแต่ช่วงเวลา บางครั้งก็อาจมีปวดเกร็งเสียวช่วงท้องน้อย และก็หายไป อาจจะเป็นเป็นหายหายได้ตั้งแต่ 10 นาที ในบางรายอาจเป็นถึง 1 ชั่วโมง 3. การเจ็บครรภ์เตือน ในช่องไตรมาสสุดท้ายมดลูกและมีการบีบตัว ช่วงแรกคุณแม่อาจจะไม่รู้สึกแต่หรือรู้สึกว่าเมื่อคลำดูจะรู้สึกว่ามดลูกแข็ง จนใกล้คลอดการบีบตัวก็จะแรงขึ้น การเจ็บเตือนอาจจะเจ็บนานครั้งละ 1-2 นาที และเป็นอยู่นานถึง 5 นาที หรือในบางคนก็อาจจะไม่มีเวลาที่สม่ำเสมอ คือจะเจ็บๆ หายๆ 4.
- รวม 16 คำศัพท์ เกี่ยวกับการคลอดลูก ที่คุณแม่ต้องทำความเข้าใจ - Konthong.com
- 4.1การดูแลผู้คลอดและทารกในครรภ์ในระยะที่ 2 ของการคลอด - การพยาบาลมารดาทารก
- วิธีการหายใจ 4 ขั้นตอนลดความเจ็บปวดขณะเบ่งคลอด
รวม 16 คำศัพท์ เกี่ยวกับการคลอดลูก ที่คุณแม่ต้องทำความเข้าใจ - Konthong.com
More and more solutions about how can you grow up your baby. Feel free to contact us if any problems have occurred or have any questions you would like to know. Don't forget to follow and keep in touch with us on Facebook บทความน่ารู้ เพิ่มเติม คลิกเลย ….. 1. ตั้งครรภ์น้ำหนักลด ในช่วงไตรมาสแรก ผิดปกติหรือไม่ 2. รีวิว 7 แอพคนท้อง ที่คุณแม่ควรมี เพื่อการตั้งครรภ์คุณภาพ
เป็นการเพิ่มออกซิเจนให้คุณแม่และทารกในครรภ์มากขึ้น เพื่อสุขภาพของแม่และลูกให้ได้รับออกซิเจนเต็มที่ระหว่างคลอด หากหายใจไม่ออกหรือหายใจสั้น ๆ อาจทำให้การระบายคาร์บอนไดออกไซด์ไม่ดีพอจนอาจเป็นผลเสียกับแม่และลูกได้
2. ลดการเกร็งตัวและการเป็น ตะคริว ของกล้ามเนื้อ
3.
- สีมงคลประจำวัน ปี 2564
- Lg wing 5g ราคา
- 300 พากย์ ไทย
- Biogaming.com เว็บพนันออนไลน์ที่ดีที่สุด บอล มวย หวย บอลสเต็ป คาสิโน
- 4.1การดูแลผู้คลอดและทารกในครรภ์ในระยะที่ 2 ของการคลอด - การพยาบาลมารดาทารก
- Ps vita emulator ไทย
- สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ดอกเบี้ยต่ำโดนใจ ผ่อนสบายๆนานสูงสุด 35 ปี ผ่อนต่ำล้านละ 3,500 บาท
- Bmw x5 hybrid ราคา 2018
- ขา ไฟ ถนน
การตรวจการเคลื่อนต่ำของรก 2. ตำแหน่งของหัวใจทารกที่สามารถฟังได้ชัดเจน 2. O: ตำแหน่งการฟังของหัวใจทารกอยู่ตำแหน่ง ROA 2. การตรวจทางช่องคลอด 2. การย้ายผู้คลอดเข้าห้องคลอด 2. การประเมินสุขภาพในระยะที่ 2 2. ประเมินความก้าวหน้าของการคลอด 2. การสังเกตุอาการมารดา 2. ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก 2. ประเมินความก้าวหน้าของการคลอดจากการตรวจภายใน
3. ระยะที่ 3 ของการคลอด 3. วิธีการคลอดรก 3. Controlled cord traction คือ การดึงสายสะดือเพื่อให้รกคลอดออกมา 3. ในกรณีศึกษามีระยะเวลาในการแบ่งคลอดยาวนาน เสี่ยงต่อภาวะการตกเลือด จึงไม่สามารถทำการคลอดรกแบบ Modified crade maneuver 3. เนื่องจาก ระยะเวลาการเบ่งคลอดที่ยาวนาน ส่งผลทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน คือ เกิดการฉีกขาดของช่องทางคลอดเพิ่มขึ้น และเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอด และ เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางข่องคลอด 3. การลอกตัวของรก 3. อาการแสดงของรกลอกตัว 3. Uterine sign มดลูกมีลักษณะกลมแข็งอยู่ระดับสะดือ เอียงไปทางด้านขวาเล็กน้อย 3. Cord sign มีการเคลื่อนต่ำและคลายเกลียวของสายสะดือ คลำไม่พบชีพจรบริเวณสายสะดือ 3. Schultz's mechanism 3. การตรวจรกและเยื้อหุ้มรก 3. สายสะดือ 3.
4.1การดูแลผู้คลอดและทารกในครรภ์ในระยะที่ 2 ของการคลอด - การพยาบาลมารดาทารก
พบเส้นเลือดดำ 1 เส้น เส้นเลือดแดง 2 เส้น 3. ความยาวของสายสะดือ 50 เซนติเมตร 3. พบ false knot 1 ตำแหน่ง เป็น false jelly knot 3. การเกาะตัวของสายสะดือเป็นแบบ Lateral insertions 3. รกด้านลูก Amnion 3. รกด้านลูกมีขนาดกว้างประมาณ 18 เซนติเมตร มีเส้นเลือดกระจายตัวบนรกและสินสุดก่อนจะถึงของรกประมาณ 1-2 เซนติเมตร 3. รกด้านแม่ Chorion 3. มี cotyledon ทั้งหมด 17 lobe ประกบกันได้สนิท ไม่พบ Calcification ทั่ว lobe รกด้านแม่มีสีแดงคล้ายลิ้นจี่ รกด้านแม่ไม่มีชิ้นส่วนที่ขาดหายไป 3. ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล เสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอด
4. ระยะที่ 4 ของการคลอด 4. การประเมิน BUBBLE-HE 4. Black ground and body conditions - ระยะที่ 3 ของการคลอดยาวนาน ใช้ระยะเวลาในการคลอดรก 21 นาที 4. Breast and Lactation - ผู้คลอดมีอาการปวดคัดตึงเต้านมเล็กน้อย - ประเมิน LACTH SCORE 7 คะแนน 4. Uterus การหดรัดตัวของมดลูกและการหดรัดตัวของมดลูก มดลูกกลมแข็ง 4. Bladder ดูลักษณะ bladder full กระตุ้นให้มารดาปัสสาวะหลังคลอดภายใน 6 hr 4. Bleeding or Lochia มีเลือดออกทางช่องคลอดประมาณ 60 cc 4. Episiotomy ช่องคลอดและแผลฝีเย็บมีลักษณะบวมแดง 4.
เมื่อเริ่มเจ็บท้องให้หายใจเข้าทางจมูกลึก ๆ ช้า ๆ และหายใจออกทางปากช้า ๆ 1 – 2 ครั้ง แล้วหายใจเข้า ออก ผ่านปากและจมูกแบบเบา ๆ ตื้น ๆ เร็ว ๆ จำนวนครั้งของการหายใจประมาณ 24 – 32 ครั้ง / นาที
2. เมื่ออาการเจ็บท้องขณะเบ่งคลอดทุเลาลง ให้หายใจเข้าทางจมูกลึก ๆ ช้า ๆ และหายใจออกทางปากช้า ๆ 1 – 2 ครั้ง
ระยะที่ 3: ระยะปากมดลูกเปิดหมด 7 – 9 เซนติเมตร
ในช่วงนี้ปากมดลูกเปิดกว้างเต็มที่เป็นระยะใกล้คลอดและสร้างความเจ็บปวดมากที่สุด จนไม่สามารถใช้วิธีการหายใจตามที่กล่าวมาใน 2 ระยะแรก ขอให้คุณแม่เบี่ยงเบนความสนใจ ทำใจให้เป็น สมาธิ จากความเจ็วปวดไปอยู่ที่ลมหายใจ วิธีปฏิบัติ คือ
1. เมื่อมดลูกเริ่มหดตัวให้หายใจเข้าทางจมูกช้า ๆ ลึก ๆ และหายใจทางปากช้า ๆ 1 – 2 ครั้ง เพื่อล้างปอด
2. ต่อจากนั้นให้หายใจแบบตื้น เร็ว เหมือนหายใจหอบค่ะ 3 – 4 ครั้ง ติดต่อกัน ต่อจากนั้น หายใจออกและเป่าลมออกยาว ๆ 1 ครั้ง ในอัตราการหายเข้าเท่ากับหายใจออกทุกครั้ง ทำสลับกันไป จำนวนของการหายใจอยู่ที่ประมาณ 24 – 32 ครั้ง / นาที
ระยะที่ 4: ระยะเบ่งคลอด
1. ในระยะนี้คุณแม่ควรอยู่ในท่านอนหงาย ศีรษะและไหล่ยกขึ้น งอเข่า แยกมือไว้ใต้เข่า ดึงต้นขา ให้เข่าชิดหน้าท้องให้มากที่สุด จากนั้นให้หายใจเข้า – ออก ในลักษณะพีระมิด
2.
การเปลี่ยนแปลงทางเดินอาหารและการเผาผลาญ 1. NPO ตอน >4 1. 5. การเปลี่ยนแปลงระบบการขับถ่าย 1. ผู้คลอดขับถ่ายอุจจาระหลังสวนอุจจาระ 1. การตรวจ Urine 1. Urine Sugar Negative 1. Urine albumin Negative 1. 6. การเปลี่ยนแปลงระบบกล้ามเนื้อ 1. ผู้คลอดมีอาการปวดหลังไม่ยอมลุกนั้ง 1. 7. การเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจ 1. ความวิตกกังวล ความเครียด 1. ผู้คลอดมีความวิตกกังวล อาย ไม่กล้าพูดคุย 1. ความกลัว 1. กลัวการคลอด เจ็บครรภ์ ร้องไห้อยากให้สามีเข้ามาหา เรียกพยาบาลให้มาอยู่ใกล้ๆ 1. ความอ่อนล้า 1. อ่อนล้าในระยะเบ่งคลอดที่ยาวนาน สีหน้าอ่อนเพลีย หายใจไม่สม่ำเสมอ 1. ทฤษฎีการเริ่มต้นของการคลอด 1. ทฤษฎีการยืดขยายของปากมดลูก Uterine Steethc theory 1. ทฤษฎีความดัน Pressure theory 1. ทฤษฎีการขาดฮอร์โมน Porgestrong 1. ผู้คลอดมีอายุครรภ์ 41+2 weeks ส่งผลให้ Hormone pro 1. ทฤษฎีกระตุ้นฮอร์โมน Oxytocin 1. ผู้คลอดอยู่ในระยะท้ายของการตั้งครรภ์ทำให้ Oxytocin เพิ่มขึ้้นกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก 1. ทฤษฎีฮอร์โมน Cortisol ของทารกในครรภ์ 1. ผู้คลอดรายนี้อายุครรภ์ครบกำหนด ทารกมีการเจริญเติบโตเต็มที่ ทำให้มีการหลั่งของ Cortisol ขึ้น มีผลทำให้กล้ามเนื้อมดลูกเริ่มหดรัดตัวและเจ็บครรภ์ 1.
หากมีเลือดออกตรงเวลาเป็นวันหรือสองสามวัน มีความหมายเหมือนกันกับ เลือดออกจากการปลูกถ่าย. ถ้าเลือดออกหนักขึ้นและนานขึ้นก็จะเป็นสาเหตุให้ การปรึกษาแพทย์
คุณอาจสนใจ
วิธีการหายใจ 4 ขั้นตอนลดความเจ็บปวดขณะเบ่งคลอด
การพยาบาลในระยะหลังคลอดของมารดา 4. มีโอกาสเกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด 4. มารดาหลังคลอดไม่สุขสบายเนื่องจากปวดแผลฝีเย็บและแผลในโพรงมดลูก 4. มารดาหลังคลอดมีโอกาสเกิดภาวะติดเชื้อ เนื่องจาก มีแผลฝีเย็บและแผลในโพรงมดลูก 4. ส่งเสริมการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดา และการปฏิบัติตัวหลังคลอด 4. ผู้คลอดพร่องความรู้ในการดูแลตนเองและทารกเนื่องจากไม่มีประสบการณ์ในการดูแลตนเองและทารกภายหลังคลอด เนื่องจาก เป็นครรภ์แรก 4. ส่งเสริมกาาคุมกำเนิด 4. การพยาบาลทารกแรกเกิด 4. เสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อในระบบต่างๆของร่างกายเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันภูมิต้านทานยังไม่สมบูรณ์ 4. เสี่ยงต่อภาวะเกิด Hypoglycemia เนื่องจากทารกยังดูดนมได้ไม่ดี
5. แรกรับ มารดาน้ำหนัก ส่วนสูง 150 กก. BMI = 34. 67 สัญญาณชีพแรกรับ T=37. 4 C PR=112 /min PR=20 BP132/76mmHg
ฝีเย็บ แผลฝีเย็บ ล้างแผลฝีเย็บ ฝีเย็บ หลังจากลูกคลอดและคลอดรกออกมาแล้ว คุณหมอก็จะทำการเย็บฝีเย็บของคุณแม่ที่เกิดการฉีกขาดจากการกรีดเพื่อช่วยคลอดบริเวณกล้ามเนื้อ ระหว่างทวารหนักถึงช่องคลอดให้กลับเป็นเหมือนเดิม แผลฝีเย็บ เกิดจากแผลขณะคลอดคุณหมอกรีดฝีเย็บให้ลูกคลอดออกมาแล้ว ก็จะทำการเย็บแผลส่วนใหญ่จะเย็บด้วยไหมละลายเป็นแผลจะหายในเวลา 4-5 วัน และสนิทได้ภายใน 14 วัน ล้างแผลฝีเย็บ หลังจากคลอดเสร็จแล้วคุณแม่ต้องมาทำความสะอาดร่างกายตัวเอง รวมถึงล้างบริเวณแผลฝีเย็บหลังจากเข้าห้องน้ำ หากพบว่าแผลบวมมากแพทย์อาจจะล้างแผลด้วยยาฆ่าเชื้อ และมีการส่องไฟเพื่อให้ความอุ่นแผลจะได้แห้งดีขึ้น 12. ตกเลือดหลังคลอด อาการตกเลือดหลังคลอดจะเกิดได้หลังจากการคลอด 1-3 วัน โดยปกติจะมีเลือดไหลออกมา แต่หากมีเลือดออกมาช่องคลอดมากกว่าเกิน 500 มิลลิลิตร ก็ถือว่าเป็นอาการตกเลือด 13. มดลูกเข้าอู่ มดลูกเข้าอู่คือ การที่มดลูกหดตัวจากที่เคยยืดขยายตามขนาดของทารกในครรภ์ ช่วงเวลาที่มดลูกจะคืนเข้าอู่ได้เป็นปกติในช่วง 1 - 2 เดือนหลังคลอด 14. น้ำคาวปลา หลังจากคลอดจะมีสิ่งตกค้างอยู่ในโพรงมดลูกถูกขับออกมาทางช่องคลอด ช่วงแรกจะเป็นสีแดงหลังจาก 4 วันไปแล้วน้ำคาวปลาก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆ คล้ายน้ำล้างปลา จะเป็นอยู่นานประมาณ 4-6 สัปดาห์ 15.